ทริปเที่ยวทับสะแกของเราจบลงด้วยความอิ่มเอมใจที่ ครัวป้าแหลวซีฟู้ด ณ หาดแหลมกุ่มค่ะ ร้านนี้ไม่มีป้ายหรูหราอลังการ แต่มีเสน่ห์แบบร้านอาหารโลคอลแท้ ๆ ที่เน้นความจริงใจในเรื่องวัตถุดิบและความอร่อยแบบรสมือแม่ บรรยากาศริมหาดที่เรียบง่ายแต่ผ่อนคลาย ทำให้เราเลือกที่จะฝากท้องไว้กับป้าแหลวอย่างไม่ลังเล
เมื่อเห็นวัตถุดิบทะเลสด ๆ ที่เพิ่งขึ้นจากเรือ เราก็จัดหนักเมนูที่เน้นความจัดจ้านและรสชาติแบบไทยแท้ ๆ เลยค่ะ!
จานแรกที่มาถึงคือ กะเพราปู พอได้ชิมคำแรกก็รู้เลยว่านี่คือ กะเพราในตำนาน! รสชาติเผ็ดร้อนถึงใจตามสไตล์กะเพราไทยแท้ ๆ ไม่ได้มีรสหวานนำ แต่ความดีงามคือ เนื้อปู ที่ป้าแหลวให้มาแบบ เนื้อล้วน ๆ แน่น ๆ ผัดเคล้ากับเครื่องกะเพราแบบเข้มข้น ทำให้ความหวานของเนื้อปูตัดกับความเผ็ดร้อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ตามมาด้วย ผัดฉ่าทะเล ที่กลิ่นเครื่องแกงหอมฟุ้งไปทั่วโต๊ะ จานนี้ป้าแหลวจัดเต็มทั้งกุ้ง หมึก และเอ็นหอย วัตถุดิบทุกอย่าง เด้ง กรอบ สด ไม่มีคาวเลยค่ะ รสชาติของผัดฉ่าคือจัดจ้านถึงพริกถึงขิง หอมเครื่องสมุนไพรแบบลงตัว เป็นรสชาติที่ชวนให้เจริญอาหารและต้องเบิ้ลข้าวสวยร้อน ๆ
อีกเมนูที่ต้องยกนิ้วให้คือ ปลาทรายทอดกระเทียมพริกไทย ปลาทรายตัวเล็ก ๆ ถูกนำไปทอดจน กรอบนอกนุ่มใน โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวและพริกไทยที่หอมฟุ้ง ตัวปลากรอบจนเคี้ยวได้ทั้งก้าง จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บคือที่สุดแห่งความเพลิน
และเมนูที่เราปิดท้ายคือ ปูผัดคื่นช่าย เพื่อปรับรสชาติให้มีความกลมกล่อมและนุ่มนวลขึ้นบ้าง จานนี้ทำได้ดีมากค่ะ เนื้อปูยังคงความหวานตามธรรมชาติ ผัดกับคื่นช่ายอย่างเข้ากัน มีรสเค็มหวานอ่อน ๆ และหอมกลิ่นคื่นช่ายชัดเจน เป็นอีกจานที่ตอกย้ำว่าอาหารทะเลสด ๆ ไม่ต้องปรุงแต่งเยอะก็อร่อยล้ำได้
ครัวป้าแหลวซีฟู้ด คือประสบการณ์ที่คุ้มค่าเกินราคาจริง ๆ ค่ะ ได้กินอาหารทะเลที่สดใหม่เหมือนซื้อจากชาวประมงโดยตรง แถมยังได้รสชาติที่จัดจ้านและโฮมมี่เหมือนมากินข้าวฝีมือแม่ที่ปรุงด้วยความรัก ใครมาทับสะแก ห้ามพลาดร้านอาหารโลคอลแห่งนี้เป็นอันขาดค่ะ
