ทริปเมืองสามอ่าวของเราเริ่มต้นด้วยความอบอุ่นที่ Srisanor Café & Boutique Resort ค่ะ ที่นี่ไม่ใช่แค่ที่พัก แต่เป็นเหมือนบ้านพักตากอากาศของเพื่อนสนิทที่อบอวลไปด้วยเรื่องราวและสไตล์ที่ลงตัว ตัวอาคารของรีสอร์ทเป็นสไตล์ Thai Contemporary ที่ใช้โครงสร้างไม้และพื้นไม้ ทำให้สัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายและความเป็นส่วนตัวตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าไปเลยค่ะ ความโดดเด่นของที่นี่คือความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งเฟอร์นิเจอร์แนววินเทจ ของตกแต่งที่ให้กลิ่นอายย้อนยุค และบริการที่แสนจะเป็นกันเอง ทำให้รู้สึกเหมือนได้พักผ่อนแบบ Slow Life จริง ๆ ค่ะ

รีสอร์ทนี้มีห้องพักเพียงไม่กี่ห้อง ทำให้มีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวสูงมาก และที่สำคัญคือทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองประจวบฯ ทำให้เดินทางสะดวกสบาย จะเดินไปถนนคนเดิน หรือไปเที่ยวอ่าวมะนาวก็ง่ายนิดเดียว ใครที่อยากได้ที่พักที่หลีกหนีความวุ่นวายแต่ยังคงความสะดวกสบาย ที่นี่ตอบโจทย์ได้สมบูรณ์แบบเลยค่ะ
และแน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้การพักผ่อนครั้งนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นคือการได้ลงมาใช้เวลาที่ ศรีเสนาะ Srisanor Café ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างของรีสอร์ทค่ะ คาเฟ่แห่งนี้ไม่ได้มีไว้บริการแค่แขกที่มาพักเท่านั้นนะคะ แต่เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ ที่อบอุ่นและเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ด้วย บรรยากาศภายในร้านน่ารักมาก ตกแต่งแบบ Homey มีมุมให้นั่งชิลล์ทั้งในห้องแอร์เย็น ๆ และโซนสวนด้านหลัง

เราไม่พลาดที่จะลองเมนูเด็ดที่นี่ อย่าง กาแฟอเมริกาโน่หอมสุวรรณ ซึ่งเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่ใช้ สับปะรดหอมสุวรรณ พันธุ์ดังของจังหวัดประจวบฯ ผสมผสานกับช็อตเอสเพรสโซ่เข้มข้น รสชาติที่ได้คือความ หอมหวาน อมเปรี้ยวของสับปะรดที่ตัดกับความเข้มของกาแฟได้อย่างลงตัว ทำให้รู้สึกสดชื่นมาก ๆ นอกจากเครื่องดื่มแล้ว ขนมของที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้กัน โดยเฉพาะพวกเค้กและเบเกอรี่ที่ทำสดใหม่ น่าทานมาก ๆ ใครมาที่นี่แล้วต้องแวะจิบกาแฟ ทานขนมอร่อย ๆ ให้ได้นะคะ

โดยรวมแล้ว Srisanor Café & Boutique Resort มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ครบถ้วนมากค่ะ ได้พักในที่พักที่อบอุ่นและมีสไตล์ ได้จิบกาแฟอร่อย ๆ ในคาเฟ่น่ารัก และสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของพนักงาน ทำให้รู้สึกว่าทริปประจวบฯ ครั้งนี้เป็นความทรงจำที่แสนพิเศษจริง ๆ ค่ะ









