ทริปประจวบฯ รอบนี้ ฉันตัดสินใจปักหมุดไปที่ อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม อำเภอบางสะพาน ซึ่งเป็นชื่อที่ลงตัวมาก ๆ เพราะเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่รวมเอาความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายฝั่งทะเลอ่าวไทยไว้ด้วยกัน ทั้งป่าบกและหมู่เกาะอย่างเกาะทะลุ เกาะสังข์ และเกาะสิงห์
เป้าหมายหลักในวันนี้ของเราคือการสำรวจ เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่ายางนา ระยะทาง 2 กิโลเมตร ฟังดูไม่นาน แต่พอเดินเข้าไปเท่านั้นแหละ...ก็รู้เลยว่าป่าที่นี่สมบูรณ์จนน่าตกใจ! บรรยากาศด้านในป่าค่อนข้าง ทึบและมืดครึ้ม เพราะเรือนยอดของต้นไม้ใหญ่แผ่คลุมจนแสงอาทิตย์ส่องลงมาไม่ถึง ทำให้รู้สึกเย็นสบาย แต่ก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับเจ้าถิ่นตัวเล็กอย่าง ยุง ที่ชุมมาก! ใครจะมาแนะนำว่าต้องฉีดสเปรย์กันยุง และใส่เสื้อผ้าแขนยาวขายาวที่ทะมัดทะแมงไว้เลยค่ะ

ตลอดทางเดินจะมีป้ายสื่อความหมายถึง 19 สถานี ซึ่งทำให้การเดินป่าไม่ใช่แค่การเดินออกกำลังกาย แต่เป็นการเรียนรู้ที่สนุกมาก ๆ เราได้เห็นเรื่องราวของระบบนิเวศตั้งแต่สิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ อย่าง ปลวก ที่เป็นผู้ย่อยสลายสำคัญในป่าร้อนชื้น ไปจนถึงการทำความรู้จักกับพืชสมุนไพรหายากกว่า 100 ชนิดในป่าแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเฉียงพระนางแอ สมุนไพรบำรุงกำลัง หรือเถาวัลย์ยักษ์อย่างหวายดง และยังได้รู้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการใช้ยางจาก ต้นยางนา มายาแนวเรือ หรือทำเชื้อเพลิงจุดไฟ

ความตื่นเต้นที่สุดอยู่ตรงกลางเส้นทาง เมื่อเราได้เห็นสิ่งก่อสร้างที่กลมกลืนกับธรรมชาติอย่าง บ้านต้นไม้ ที่เขาไม่ได้ตัดต้นไม้เลย แต่สร้างให้ต้นไม้ทะลุหลังคาขึ้นไป เป็นจุดที่เราสามารถปีนขึ้นไปชมวิวเรือนยอดของป่าดิบชื้นจากมุมสูงได้ ถือเป็นการออกแบบที่เคารพธรรมชาติมาก ๆ และเมื่อเดินลึกเข้าไปอีกไม่นาน เราก็ได้พบกับ ไฮไลต์สำคัญ คือ ต้นยางนาอายุ 200 ปี ที่สูงถึง 42 เมตร และมีเส้นรอบวงถึง 560 เซนติเมตร! การได้ยืนอยู่ข้างต้นไม้ขนาดมหึมาที่อยู่คู่ป่าแห่งนี้มาสองศตวรรษ เป็นความรู้สึกที่น่าทึ่งและทำให้เราเคารพความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติอย่างแท้จริง

นอกจากป่าแล้ว ทริปนี้เรายังนั่งเรือไปสำรวจเกาะ โดยจุดหมายแรกคือ เกาะทะลุ มหัศจรรย์แห่งการกัดเซาะที่เกิดเป็นช่องหินขนาดใหญ่ เป็นมุมถ่ายภาพยอดนิยมที่มองเห็นวิวทะเลได้ทั้งสองฝั่ง และรอบ ๆ เกาะยังมีแนวปะการังที่ อ่าวกวด ซึ่งเหมาะกับการดำน้ำมาก ๆ
หลังจากนั้นเราได้ไปเยือน อ่าวในหุบ ซึ่งมีความสำคัญระดับประเทศ เพราะที่นี่ถือเป็น แหล่งวางไข่ของเต่ากระที่มากที่สุด ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เจ้าหน้าที่ที่นี่เล่าให้ฟังถึงการดูแลและอนุบาลไข่เต่าอย่างใกล้ชิด เป็นการทำงานเชิงอนุรักษ์ที่น่าชื่นชม และเรายังได้ไปชม ปลายหางเกาะทะลุ ที่มี สุสานปะการัง สวยงามแปลกตาไปอีกแบบ
การมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติอ่าวสยามในครั้งนี้ให้ข้อคิดสำคัญเรื่อง การอนุรักษ์ เพราะเรายังเห็นปัญหาขยะทะเลจำนวนมากที่ถูกพัดพาเข้ามาในพื้นที่วางไข่ของเต่า การมาเที่ยวที่นี่จึงไม่ใช่แค่การชมวิว แต่เป็นการเรียนรู้และร่วมรณรงค์ให้ทุกคนช่วยกัน ทิ้งขยะให้ถูกที่และนำขยะพลาสติกกลับออกไป เพื่อรักษาพื้นที่ธรรมชาติที่สวยงามแห่งนี้ และอนุบาลบ้านของเต่ากระให้อยู่คู่กับเราไปนาน ๆ
ปิดท้ายวันด้วยการกลับมาที่ฝั่ง และขับรถออกมาไม่ไกลเพื่อไปพักผ่อนต่อที่ หาดแม่รำพึง ชายหาดที่ทรายขาวสะอาด มีถนนเรียบชายหาดให้เดินเล่นรับลมทะเลสบาย ๆ และมีร้านอาหารวิวดีให้แวะพักผ่อน บอกเลยว่าทริปที่ อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม นี้ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวมาก ๆ ระหว่างการผจญภัยในป่าลึกกับการพักผ่อนริมทะเลอย่างแท้จริงค่ะ












