หลังจากที่ได้ตะลอนเที่ยวคาเฟ่ในเมืองมาหลายร้านแล้ว วันนี้จุ๊ขอหนีเข้าสู่โหมดธรรมชาติแบบเต็มตัวค่ะ อยากได้ฟีลลิ่งแบบ ฟาร์มสเตย์ ที่มีอากาศบริสุทธิ์ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ และมีกาแฟอร่อยๆ จิบค่ะ เป้าหมายของเราวันนี้ก็คือ "PHUDET Farm and Café" หรือ "ไร่ภูเดช" นี่แหละค่ะ
🚗 ออกจากบ้าน...สู่บรรยากาศไร่เขียวขจี
บ้านจุ๊อยู่ประจวบฯ ก็จริงค่ะ แต่การได้ขับรถออกจากตัวเมืองไปตามเส้นทางที่เต็มไปด้วยไร่นาและสวนต่างๆ มันทำให้รู้สึกเหมือนได้เดินทางไปพักผ่อนจริงๆ ค่ะ ไร่ภูเดช ตั้งอยู่ในทำเลที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากๆ ค่ะ พอนำรถเข้าสู่เขตฟาร์มเท่านั้นแหละ ก็รู้สึกได้ถึงความ สดชื่น ของอากาศที่แตกต่างจากในเมืองทันทีเลยค่ะ

บรรยากาศฟาร์ม: ที่นี่ไม่ได้มีแค่คาเฟ่ค่ะ แต่เป็น ฟาร์ม ที่มีพื้นที่กว้างขวาง มีการจัดสวนและมุมต่างๆ ให้ดูร่มรื่น สบายตา และมีกลิ่นอายของความเป็นชนบทที่อบอุ่นมากๆ ค่ะ
💖 ฟีลลิ่งของจุ๊: สิ่งที่ทำให้จุ๊ประทับใจตั้งแต่แรกคือความเขียวขจีของต้นไม้ค่ะ มันทำให้รู้สึกว่าตาได้พักผ่อนจริงๆ และบรรยากาศที่เงียบสงบแบบนี้แหละค่ะ ที่ร่างกายเราต้องการ
☕️ ภารกิจหลัก: จิบกาแฟในบรรยากาศ Slow Life
แน่นอนว่าจุดหมายแรกของเราก็คือ คาเฟ่ ของไร่ภูเดชค่ะ อาคารคาเฟ่มีการออกแบบที่น่ารัก เข้ากับบรรยากาศฟาร์มมากๆ ค่ะ มีที่นั่งให้เลือกหลากหลาย ทั้งในห้องแอร์เย็นๆ และโซน Outdoor ที่มองเห็นวิวไร่แบบเต็มๆ ตา

เครื่องดื่มของจุ๊: วันนี้จุ๊เลือกสั่งเมนูคลาสสิกของคาเฟ่สไตล์ฟาร์มค่ะ นั่นก็คือ สตรอว์เบอร์รีโซดา ค่ะ
- รสชาติ: สตรอว์เบอร์รีโซดาของที่นี่ทำได้ดีมากค่ะ! ด้วยรสชาติเปรี้ยวนำหวานตามกำลังดี ผสมกับน้ำโซดาที่เย็นเจี๊ยบและซาบซ่า ทำให้รู้สึกสดชื่นไปทั่วปาก และเป็นความสุขยามบ่ายที่สมบูรณ์แบบจริงๆ ค่ะ
ของหวาน: จุ๊สั่ง ทาร์ตมินิ ของทางร้านมาทานคู่กันค่ะ (เท่าที่จำได้น่าจะเน้นวัตถุดิบตามฤดูกาลของฟาร์มค่ะ) รสชาติอร่อย ไม่หวานจนเกินไป กินคู่กับสตรอว์เบอร์รีโซดาแล้วลงตัวมากๆ ค่ะ
📸 มุมถ่ายรูปสวยๆ...สไตล์ฟาร์มสเตย์
สิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อมาถึงที่สวยๆ แบบนี้คือการถ่ายรูปค่ะ! ไร่ภูเดช มีมุมถ่ายรูปที่เป็นเอกลักษณ์และน่ารักมากๆ ค่ะ

มุมธรรมชาติ: ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวๆ ต้นไม้ใหญ่ หรือมุมมองไปยังไร่ต่างๆ ที่จัดไว้อย่างสวยงาม ทุกมุมล้วนเป็นฉากหลังที่ให้ภาพสวยแบบสบายตาเลยค่ะ
มุมอุปกรณ์ฟาร์ม: มีการจัดวางพวกเกวียนเก่าๆ หรืออุปกรณ์ทำฟาร์มแบบวินเทจไว้เป็นพร็อพให้ถ่ายรูปด้วยค่ะ ทำให้ได้ภาพที่ไม่ซ้ำใครเลย
มุมคาเฟ่: ถ่ายคู่กับแก้วกาแฟในมือ พร้อมกับวิวสวนด้านหลัง ได้ฟีลลิ่งนักท่องเที่ยวสายชิลล์มากๆ ค่ะ
🌾 เดินเล่นชมฟาร์ม...สัมผัสชีวิตเรียบง่าย
หลังจากที่อิ่มท้องจากกาแฟและขนมแล้ว จุ๊ก็เดินสำรวจรอบๆ ฟาร์มค่ะ ได้เห็นการดูแลต้นไม้และพื้นที่ต่างๆ ของฟาร์มอย่างใกล้ชิด ทำให้รู้สึกทึ่งในความตั้งใจของเจ้าของร้านมากๆ ค่ะ
การได้ใช้เวลาอยู่ที่นี่ ทำให้จุ๊รู้สึกว่าได้ รีเซ็ตตัวเอง ค่ะ ได้หลุดพ้นจากหน้าจอโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ แล้วหันมามองความงามของธรรมชาติรอบๆ ตัวแทนค่ะ
✨ บทสรุป: ฟาร์มรัก...ที่ทำให้เราตกหลุมรัก
การมาเยือน PHUDET Farm and Café (ไร่ภูเดช) ในวันนี้ เป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมมากๆ ค่ะ ที่นี่ไม่ได้มีแค่คาเฟ่ที่ดี แต่ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรักในธรรมชาติ ความใส่ใจในการจัดการฟาร์ม และบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเอง ทำให้จุ๊อยากกลับมาพักผ่อนที่นี่อีกแน่นอนค่ะ
ใครที่มาเที่ยวประจวบฯ แล้วอยากได้ ที่เที่ยวที่ครบจบในที่เดียว ทั้งคาเฟ่สวยๆ วิวธรรมชาติปังๆ และบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนแบบ Slow Life จุ๊ขอแนะนำให้แวะมาเช็คอินที่ ไร่ภูเดช เลยนะคะ รับรองว่าจะหลงรักที่นี่เหมือนที่จุ๊หลงรักแน่นอนค่ะ









